วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แหล่งตลาดนัด

เพื่อน ๆ หลายคน ชอบช็อปปิ้งกันที่ตลาดนัดมาก เพราะของถูกกว่าในห้าง และมีของหลากหลายให้เลือก แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมคะ ว่าอาชีพขายของในตลาดนัดทำเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพื่อนของผู้เขียนคนนึง ได้ออกจากงานประจำเดือนละเป็นหมื่น ออกมาเป็นพ่อค้าตลาดนัด ที่ผู้คนเห็นว่าต๊อกต๋อย ถ้าถามถึงรายได้ของเขา เพื่อน ๆ ต้องตกใจแน่ค่ะ เพราะเขามีรายได้เดือนละแสน จากการเปิดขายตลาดนัด 2 ที่ร่วมกับแฟน วันนี้ ผู้เขียนเลยมาแนะนำหนังสือเล่มหนึ่งที่ได้รวบรวมแหล่งตลาดนัด ที่ตั้งของตลาดนัด ทำเลไหนดี ราคาค่าเช่าที่ของตลาดนัด หนังสือที่ว่านี้ก็คือ "200 ทำเลทองขายของตลาดนัด" เราคงเป็นเศรษฐีไม่ได้แน่ ๆ ค่ะ ถ้าเราไม่ได้เริ่มอะไรเลย ขอให้ร่ำรวยกันทุกคนนะคะ

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ฝึกอาชีพฟรี!!

ตอนแรกที่รู้เรื่องนี้ ตาโตเลยค่ะ
เข้ากับคอนเซ็ปผู้เขียนมาก อะไรที่ทำเงินได้และต้นทุนถูกเนี่ย
เพื่อน ๆ ลองดูนะคะ ว่าสนใจอะไร แถมเรียนฟรีอีกต่างหาก รวยๆๆๆ กันทุกคนนะค๊า

ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร


ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร จำนวน 8 ศูนย์
1.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร วัดธรรมมงคล
2.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร สวนลุมพินี
3.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร วัดวรจรรยาวาส
4.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร บางพลัด
5.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร จตุจักร 2 (มีนบุรี)
6.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร วัดสุทธาวาส บางกอกน้อย
7.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร จตุจักร 1
8.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คุณสมบัติ
1. สัญชาติไทย
2. ชาย - หญิง อายุ 10 ปีขึ้นไป
3. อ่านออก - เขียนได้
4. มีความประพฤติเรียบร้อย
5.ไม่เป็นโคติดต่อร้ายแรง หรือโรคน่ารังเกียรติ
6. เฉพาะวิชาคอมพิวเตอร์ต้องพิมพ์ดีดได้
7. เฉพาะวิชาช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ (ผ่านการประเมิน)
8. เฉพาะวิชาช่างซ่อมโทรทัศน์ (ต้องมีความรู้พื้นฐานวิชาซ่อมวิทยุ)

หลักฐานการสมัคร
1. บัตรประชาชน หรืบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้(มีรูป)
2. รูปถ่าย (หน้าตรง) ขนาด 1-2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
3. ยื่นใบสมัครด้วยตนเอง

คุณวุฒิที่ได้รับเมื่อจบหลักสูตร

1. จบหลักสูตรตั้งแต่ 120 ชั่วโมงขึ้นไป จะได้รับวุฒิบัตรที่ออกให้โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
2. จบหลักสูตรต่ำกว่า 120 ชั่วโมง จะได้รับเกียรติบัตรที่ออกให้โดยผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมช

การรับสมัคร (กรุณาตรวจสอบ วัน เวลา การรับสมัครจากศูนย์แต่ละศูนย์อีกครั้ง)
1. หลักสูตร 1 เดือนเรียนวันจันทร์-ศุกร์ (80 ชั่วโมง)เวลาเรียน 09.00 - 14.00 น.
รับสมัครจำนวน 10 รุ่น/ปี
- รุ่นที่ 1 รับสมัคร 5 สิงหาคม - 30 กันยายน เปิดเรียน ตุลาคม
- รุ่นที่ 2 รับสมัคร 5- 30 ตุลาคม เปิดเรียน พฤศจิกายน
- รุ่นที่ 3 รับสมัคร 5- 30 พฤศจิกายน เปิดเรียน ธันวาคม
- รุ่นที่ 4 รับสมัคร 5- 30 ธันวาคม เปิดเรียน มกราคม
- รุ่นที่ 5 รับสมัคร 5- 30 มกราคม เปิดเรียน กุมภาพันธ์
- รุ่นที่ 6 รับสมัคร 5- 30 กุมภาพันธ์ เปิดเรียน มีนาคม
- รุ่นที่ 7 รับสมัคร 5 มีนาคม - 30 เมษายน เปิดเรียน พฤษภาคม
- รุ่นที่ 8 รับสมัคร 5- 30 พฤษภาคม เปิดเรียน มิถุนายน
- รุ่นที่ 9 รับสมัคร 5- 30 มิถุนายน เปิดเรียน กรกฎาคม
- รุ่นที่ 10 รับสมัคร 5- 30 กรกฎาคม เปิดเรียน สิงหาคม
2. หลักสูตร 2 เดือน เรียนวันจันทร์ - ศุกร์ (160 ชั่วโมง) เวลาเรียน 09.00 - 14.00 น.
รับสมัคร จำนวน 5 รุ่น/ปี
- รุ่นที่ 1 รับสมัคร 1 สิงหาคม - 30 กันยายน เปิดเรียน ตุลาคม - พฤศจิกายน
- รุ่นที่ 2 รับสมัคร 5- 30 พฤศจิกายน เปิดเรียน ธันวาคม - มกราคม
- รุ่นที่ 3 รับสมัคร 5- 30 มกราคม เปิดเรียน กุมภาพันธ์ - มีนาคม
- รุ่นที่ 4 รับสมัคร 5 มีนาคม - 30 เมษายน เปิดเรียน พฤษภาคม - มิถุนายน
- รุ่นที่ 5 รับสมัคร 5- 30 มิถุนายน เปิดเรียน กรกฎาคม - สิงหาคม
3. หลักสูตร 4 เดือน วันเสาร์/วันอาทิตย์ (80 ชั่วโมง) เวลาเรียน 09.00 - 15.00 น.
เปิดรับสมัคร จำนวน 3 รุ่น/ปี
- รุ่นที่ 1 เปิดรับสมัคร 1-30 กันยายน เปิดเรียน ตุลาคม - มกราคม
- รุ่นที่ 2 เปิดรับสมัคร 5 - 31 มกราคม เปิดเรียน กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม
- รุ่นที่ 3 เปิดรับสมัคร 1 - 31 พฤษภาคม เปิดเรียน มิถุนายน - กันยายน
5. หลักสูตรเรียน 6 เดือนวันเสาร์/อาทิตย์ (125 ชั่วโมง) เวลาเรียน 09.00 -15.00 น.
เปิดรับสมัคร จำนวน 2 รุ่น/ปี
- รุ่นที่ 1 เปิดรับสมัคร 1 - 30 กันยายน เปิดเรียน ตุลาคม - มีนาคม
- รุ่นที่ 2 เปิดรับสมัคร 1- 31 มีนาคม เปิดเรียน เมษายน - กันยายน


1.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร วัดธรรมมงคล
ที่ตั้ง ซอยปุณณวิถี 20 สุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร
โทร. 0-2331-7573-4

หลักสูตร

1. หลักสูตร 80 ชั่วโมง ( 1 เดือน) เรียนวันจันทร์-ศุกร์ เวลาเรียน 09.00 - 14.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
- อาหารว่าง
- เบเกอรี่
- แปรรูปอาหารและสมุนไพร
- อาหารคาว
- ศิลปประดิษฐ์ (ดอกไม้ดิน ดอกไม้ถุงน่อง)
- นวดแผนโบราณ
- นวดฝ่าเท้า
- การจัดดอกไม้สด
- ร้อยลูกปัด
- คอมพิวเตอร์(การใช้โปรแกรม)


2. หลักสูตร 160 ชั่วโมง (2 เดือน) เรียนวันจันทร์ - ศุกร์ เวลาเรียน 09.00 - 14.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
- เสริมสวย ระดับ 1
- ตัดผมสุภาพบุรุษ ระดับ 1
- ตัดเย็บเสื้อผ้า ระดับ 1
- การสร้างแบบเสื้อผ้า (แพทเทิร์น)


3. หลักสูตรเรียน 40 ชั่วโมง (1 เดือน) เรียน วันอาทิตย์ เวลาเรียน 09.00 -15.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
-แกะสลักกระจกและกรอปรูปวิทยาศาสตร์

4. หลักสูตรเรียน 80 ชั่วโมง (4 เดือน)

4.1 หลักสูตรเรียน 4 เดือน วันเสาร์ เวลาเรียน 09.00 -15.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
- อาหารว่าง
-เบเกอรรี่
- อาหารคาว
- แทเทิร์น
- ศิลปประดิษฐ์ (ปั้นดอกไม้จากดินไทย)
- ดอกไม้จากถุงน่อง
- แกะสลักผักและผลไม้
- ร้อยลูกปัด
- ผ้าบาติก
- นวดแผนโบราณ
- นวดฝ่าเท้า
- สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้
- คอมพิวเตอร์(การใช้โปรแกรม)
- ซ่อทโทรศัพท์มือถือ
- แปรรูปอาหารและสมุนไพร
- เพ้นท์ผ้า

4.2 หลักสูตรเรียน 4 เดือน วันอาทิตย์ เวลาเรียน 09.00 -15.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
- อาหารว่าง
-เบเกอรรี่
- อาหารคาว
- แพทเทิร์น
- ศิลปประดิษฐ์ (ปั้นดอกไม้จากดินไทย)
- ดอกไม้ผ้าระบายสี
- การจัดดอกไม้สด
- ร้อยลูกปัด
- ผ้าบาติก
- นวดแผนโบราณ
- นวดฝ่าเท้า
- สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้
- คอมพิวเตอร์(การใช้โปรแกรม)
- ซ่อมโทรศัพท์มือถือ
- แปรรูปอาหารและสมุนไพร
- เพ้นท์ผ้า


5. หลักสูตรเรียน 125 ชั่วโมง (6 เดือน) เรียน วันเสาร์/อาทิตย์ เวลาเรียน 09.00 -15.00 น.
5.1 หลักสูตรเรียน 6 เดือนวันเสาร์

วิชาที่เปิดสอน
- ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ (สอบประเมินความรู้พื้นฐาน)
- ช่างไฟฟ้า
- ช่างซ่อมโทรทัศน์ (ต้องมีความรู้พื้นฐานวิชาซ่อมวิทยุ)
- ช่างซ่อมวิทยุ
- เสริมสวยระดับ 1
- ตัดผมสุภาพบุรุษ ระดับ 1
- ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ระดับ 1

5.2 หลักสูตรเรียน 6 เดือนวันอาทิตย์

วิชาที่เปิดสอน
- ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ (สอบประเมินความรู้พื้นฐาน)
- ช่างไฟฟ้า
- ช่างซ่อมโทรทัศน์ (ต้องมีความรู้พื้นฐานวิชาซ่อมวิทยุ)
- ช่างซ่อมวิทยุ
- เสริมสวยระดับ 1
- ตัดผมสุภาพบุรุษ ระดับ 1
- ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ระดับ 1



2.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร สวนลุมพินี
ที่ตั้ง สวนลุมพินี ตรงข้ามเกาะลอยด้านถนนสารสิน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 0 2251 5849, 0 2251 5268
วิชาที่เปิดสอน
หลักสูตร 1 เดือน (60 ชั่วโมง) วันเสาร์และวันอาทิตย์
อินเตอร์เน็ต (เรียนที่วัดมหาพฤฒาราม)
หลักสูตร 1 เดือน (80 ชั่วโมง) วันจันทร์ - วันศุกร์
-อาหารคาว
-อาหารว่าง
-เบเกอรี่
-ขนมไทย
-การทำไวน์และแปรรูปสมุนไพร
-แกะสลักผักผลไม้
-จัดดอกไม้สด
-ดอกไม้จากดินหอม
-ดอกไม้ใยบัว
-เพ้นท์ผ้าบาติก
-กรอบรูปวิทยาศาสตร์
-คอมพิวเตอร์
-ซ่อมจักร
-ตัดเสื้อผ้ากางเกงเด็ก
-ร้อยลูกปัด
หลักสูตร 4 เดือน (250 ชั่วโมง) วันจันทร์ - วันศุกร์)
-เย็บจักรอุตสาหกรรม
-ปักจักร
-แพทเทริน์
-ตัดผมสุภาพบุรุษระดับ 1,2
-เสริมสวยระดับ 1,2
-ตัดเสื้อสตรีระดับ 1,2
-ถักแก้ว
-นวดแผนโบราณ
หลักสูตร 4 เดือน (80 ชั่วโมง) วันเสาร์ - วันอาทิตย์
-ของชำร่วย
-เทียนแฟนซี
-ดอกไม้ดินหอม
-อาหาคาว
-อาหารนานาชาติ
-อาหารว่าง
-ขนมไทย
-เบเกอรี่
-ขนมโรตี
-จัดดอกไม้สด
-ดอกไม้ใยบัว
-ผลิตภัณฑ์จากเชือก
-กรอบรูปวิทยาศาสตร์
-สิ่งประดิษฐ์จกกระดาษ
-แกะสลัก
-ดอกไม้เกล็ดปลา
-ร้อยลูกปัด
-ถักแก้ว
-เพ้นท์ผ้าบาติก
-นวดแผนโบราณ
หลักสูตร 6 เดือน (125 ชั่วโมง) วันเสาร์-วันอาทิตย์
-คอมพิวเตอร์(เรียนที่วัดมหาพฤฒาราม)
-ปักจักร
-ตัดเสื้อสูท
-ตัดเสื้อผ้าชาย
-เย็บจักรอุตสาหกรรม
-แพตเทิร์น
-ดีไซน์
-ตัดเสื้อผ้าสตรี ระดับ 1,2
-ตัดผมสุภาพบุรุษระดับ 1,2
ไฟฟ้า
-ช่างซ่อมวิทยุ
-ช่างซ่อมโทรทัศน์
-ช่างซ่อมวีดีโอ
-ช่างซ่อมจักร
-ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์


3.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร วัดวรจรรยาวาส
ที่ตั้ง ซอยเจริญกรุง 72 ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 0 2292 0194 และ 0 2289 3478
วิชาที่เปิดสอน
-ตัดผมสุภาพบุรุษ 1
-ตัดผมสุภาพบุรุษ 2
-เสริมสวยระดับ 1
-เสริมสวยระดับ 2
-ศิลปะประดิษฐ์
-สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้
-สมุนไพร
-ช่างไฟฟ้า
-คอมพิวเตอร์
-ช่างซ่อมวีดีโอ
-เพ้นท์แก้ว
-กระจก
-พิมพ์ดีดไทย-อังกฤษ
-ผ้าบาติก
-จัดดอกไม้สด
-ดอกไม้ผ้าระบายสี
-ช่างซ่อมคอมพิวเตอร์
-ตัดเสื้อสตรีหลักเซ็นต์ระดับ 1
-ตัดเสื้อสตรีหลักเซ็นต์ระดับ 2
-การสรางแพทเทิร์น
-นวดแผนโบราณ
-ตัดเสื้อกางเกงชาย
-ตัดเสื้อสูทชาย - หญิง
-กรอบรูปวิทยาศาสตร์
-เย็บจักรอุตสาหกรรมดีไซน์
-ช่างวิทยุ 1
-ช่างวิทยุ 2
-ช่างซ่อมโทรทัศน์สี-ขาวดำ
-แกะสลักผัก-ผลไม้ และงานใบตอง
-อาหารว่าง
-อาหารคาว
-เบเกอรี่
-ดนตรีไทย



4.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร บางพลัด
ที่ตั้ง ซอยจรัลสนิทวงศ์ 79 ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 0 2423 2026
วิชาที่เปิดสอน
-ตัดผมสุภาพบุรุษ 1
-ตัดผมสุภาพสตรี 2
-เสริมสวยระดับ 1 เสริมสวยระดับ 2
-ศิลปะประดิษฐ์
-ศิลปะประยุกต์
-ไฟฟ้า
-ของชำร่วย
-ดอกไม้จากเกล็ดปลา
-ตัดเสื้อสูทชาย - หญิง
-อาหารว่าง
-ขนมไทย
-อาหารคาว
-ซ่อมรองเท้า
-คอมพิวเตอร์
-จักรอุตสาหกรรม
-ตัดเสื้อสตรีหลักเซ็นต์ระดับ 1
-ตัดเสื้อสตรีหลักเซ็นต์ระดับ 2
-การสร้างแพทเทิร์น
-นวดแผนโบราณ
-ตัดเสื้อกางเกงชาย
-กรอบรูปวิทยาศาสตร์
-ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร
-เรซิ่นกลาส
-ซ่อมวิทยุ-โทรทัศน์
-ผ้าบาติก
-เพ้นท์แก้ว เพ้นท์กระจก
-พวงมาลัยดอกไม้สด บายศรี
-ซ่อมคอมพิวเตอร์


5.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร จตุจักร 2 (มีนบุรี)
ที่ตั้ง ภายในตลาดนัดจตุจักร 2 (มีนบุรี) เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 0 2540 4375-6
วิชาที่เปิดสอน
-ดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อการค้า
-ขนมไทย
-ตัดเสื้อสตรีระดับ 1
-ตัดเสื้อสตรีระดับ 2
-ศิลปะประดิษฐ์
-กัดลายกระจกและพ่นทราย
-ซ่อมคอมพิวเตอร์
-กรอบรูปและกรอบวิทยาศาสตร์
-แปรรูปสมุนไพร
-เครื่องปั้นดินเผาและเซรามิก
-ศิลปะประยุกต์และการทำผ้าบาติก
-การจัดดอกไม้พื้นฐานและ ประยุกต์ในการประกอบอาชีพ
-เสริมสวย 1
-เสริมสวย 2
-ตัดผมสุภาพบุรุษระดับ 1
-ตัดผมสุภาพบุรุษระดับ 2
-อาหารว่าง
-เบเกอรี่
-นวดแผนโบราณ
-อาหารไทย



6.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร วัดสุทธาวาส บางกอกน้อย
ที่ตั้ง วัดสุทธาวาส ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 0 2412 4611-2
การเดินทาง รถประจำทางสาย 40, 42, 56, 57, 68, 81, 91, ปอ509, ปอ510, ปอ542 และต่อด้วยรถสองแถวเข้าซอย หรือมอเตอร์ไซด์รับจ้าง

วิชาที่เปิดสอน
-ตัดเย็บเสื้อผ้าระดับ 1-2
-เสริมสวยระดับ 1 -2
-ตัดผมสุภาพบุรุษระดับ 1-2
-นวดแผนไทย
-อาหารคาว
-อาหารว่าง
-ขนมไทย
-เบเกอรี่
-ซ่อมคอมพิวเตอร์
-ซ่อมโทรศัพท์มือถือ
-ช่างอิเลคโทรนิค
-ไฟฟ้า
-ช่างซ่อมโทรทัศน์
-ช่างซ่อมวิทยุและเครื่องขยายเสียง
-จัดดอกไม้สด แกะสลัก และงานใบตอง
-ดอกไม้ดิน
-ดอกไม้ผ้า,ใยบัว,เกล็ดปลา
-พานพุ่ม
-บายศรี
-สิ่งประดิษฐ์จากกระดาษสา
-เพ้นท์ผ้า,แก้ว,ไม้
-ร้อยลุกปัด
-สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้
-สานผักตบชวา
-บาติก,มัดย้อม
-วาดรูป
-กรอบรูป,กัดลายกระจก
-เทียนแฟนซี




7.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร จตุจักร 1
ที่ตั้ง สวนจตุจักร (ลานจอดรถ) เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 0 2272-4741, 0 2272-4742
วิชาที่เปิดสอน
-ตัดผมสุภาพบุรุษ
-เสริมสวย สิ่งประดิษฐ์
-นวดแผนไทย
-ดอกไม้ใยบัว
-เทียนแฟนซี
-เพ้นท์แก้ว
-กระจก
-เบเกอรี่
-ดอกไม้จากดินหอม
-แกะสลักผักและผลไม้
-อาหารว่าง
-อาหารคาว




8.ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ที่ตั้ง มหาวิทยาลัยรามคำแหง ตึกสุโขทัย ชั้น 2 ห้อง 0214
โทรศัพท์ 0 2809-8026 กด 8 , 04113-6125

หลักสูตร

1. หลักสูตร 80 ชั่วโมง ( 1 เดือน) เรียนวันจันทร์-ศุกร์ เวลาเรียน 09.00 - 14.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
-ซ่อมคอมพิวเตอร์
-ดอกไม้ดินไทย
-นวดแผนไทย
-จัดดอกไม้สดและดอกไม้อบแห้ง
-ถักเชือกเมคราแม่-ร้อยลูกปัด
-ดอกไม้ใยบัว
-แปรรูปสมุนไพรและของชำร่วย
-เทียนแฟนซี
-แกะสลักผัก-ผลไม้
-ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา
-ผ้าบาติก
-อาหารคาว
-นวดอาหารว่าง
-ขนมไทย
-เบเกอรี่

2. หลักสูตร 80 ชั่วโมง ( 2 เดือน) เรียนวันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลาเรียน 09.00 - 15.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
-ซ่อมโทรศัพท์มือถือ
-นวดแผนไทย
-ดอกไม้ดินญี่ปุ่น
-ดอกไม้ใยบัว
-จัดดอกไม้สดและงานใบตอง
-ผ้าบาติก
-กรอบรูปวิทยาศาสตร์ - กัดลายกระจก
-แกะสลักผัก-ผลไม้
-ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา
-ร้อยลูกปัด
-อาหารคาว
-นวดอาหารว่าง
-ขนมไทย
-เบเกอรี่

3. หลักสูตร 160 ชั่วโมง ( 2 เดือน) เรียนวันจันทร์-ศุกร์ เวลาเรียน 09.00 - 14.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
-เสริมสวย
-ตัดผมชายระดับ 1
-ตัดผมชายระดับ 2
-ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีระดับ 1
-ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีระดับ 2

4. หลักสูตร 160 ชั่วโมง ( 4 เดือน) เรียนวันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลาเรียน 09.00 - 15.00 น.
วิชาที่เปิดสอน
-เสริมสวย
-ตัดผมชายระดับ
-ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีระดับ 1
-ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีระดับ 2

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

มาเข้าคอร์สสร้างรายได้กัน

หลังจากได้แรงบันดาลใจจากซาลาเปาของคุณปรุงพรแล้ว
ชักอยากรวยกะเค้าบ้าง ดูท่าทางเส้นทางสายนี้จะเหนื่อยไม่ใช่เล่นนะคะ
ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย สิ่งที่ได้มาจะมีความหมายก็ตรงความยากนี่แหละค่ะ
สิ่งที่จะนำมาฝากเพื่อน ๆ วันนี้ ก็คือคอร์สอบรมวิชาชีพในคอลัมม์มติชนค่ะ
http://info.matichon.co.th/rich/
จะอยู่ด้านมุมขวามือด้านบนของเวปนี้เลย
ดูมาหลายคอร์ส ผู้เขียนสนใจคอร์สออกแบบรองเท้าแฟชั่นค่ะ
ค่าคอร์สอบรมก็ถือว่า ไม่แพงมากนะคะ
ถ้ามันสามารถสร้างอาชีพ สร้างงาน สร้างเงินให้เรา
โดยไม่ต้องง้อ นายทุนต่างชาติ ลองสักคอร์สก็ไม่เสียหายนี่นา
เป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่อยากรวยทุกคนค่ะ

ซาลาเปาเงินล้าน

ในยุคเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงอย่างนี้ หลายคน(ผู้เขียนก้อด้วย)
ต่างหาอาชีพเสริมกันจ้าละหวั่น เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสภาพเศรษฐกิจ
ใครจะไปรู้ล่ะคะ ว่าวันนึงแล้วอาชีพเสริมของเราอาจจะทำรายได้มหาศาล
อย่างเช่นบุคคลที่ผู้เขียนนำมาฝากกันวันนี้ค่ะ ขอให้เครดิตกับเส้นทางเศรษฐีของมติชนนะคะ

" ที่ตั้งใจมาวันนี้เพราะอยากจะมาบอกกับทุกคนว่าผมตกงานมา 18 เดือนแล้วจากเคยได้เงินเดือน เดือนละ 3 ล้านบาท แต่กลับไม่มีเงินเดือนมาปีครึ่งแล้วผมยังไม่เดือดร้อนเลย เพราะศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน แท้ๆ"

หากยังพอจำกันได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พื้นที่ในคอลัมน์นี้ โดย "บุญเตือน"เคยนำเสนอเรื่องราวน่าชื่นชมของลูกศิษย์ศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชนท่านหนึ่งนามว่า คุณปรุงพร อาสภวิริยะซึ่งเคยเข้ารับการฝึกอบรมจากทางศูนย์อาชีพฯ นับแล้วหลายสิบวิชาส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องของอาหารการกิน อาทิ ซาลาเปา กาแฟสด หมูสะเต๊ะขนมปัง กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 5 ปีที่เธอสามารถเก็บเกี่ยวความรู้ได้ในระดับมั่นใจจึงได้เปิดกิจการค้าขาย อาหารใช้ทำเลหน้าบ้าน ตั้งชื่อร้านว่า"ซาลาเปาบ้านคุณกบ"

คุณปรุงพรบอกถึงสาเหตุที่เข้ามารับการอบรมวิชาทำซาลาเปา จากศูนย์อาชีพฯ เมื่อหลายปีก่อนว่าอาจเป็นเพราะสามีชอบรับประทานซาลาเปาเป็นชีวิตจิตใจเห็น ที่ไหนขายต้องเข้าไปอุดหนุนอยู่เสมอ จนบางครั้งในฐานะภรรยารู้สึกอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าผู้ขายบางรายอาจปรุงออกมา ไม่ได้มาตรฐานทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของหัวหน้าครอบครัวแต่หากตัวเธอมี วิชาทำซาลาเปาที่ถูกสุขลักษณะและรสชาติอร่อยต่อไปผู้เป็นสามีจะได้ไม่ต้องหา ซื้อของโปรดจากที่ไหนอีก

กระทั่งในราวปี 2545คุณปรุงพรตัดสินใจลาออกจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว เพื่อดูแลลูกๆ ทั้ง 4 คนทำให้มีเวลามากขึ้นที่จะฝึกปรือวิชาทำอาหารที่ร่ำเรียนมาระหว่างนั้นเอง ที่เกิดเหตุการณ์บางอย่างเกี่ยวกับวิธีคิดของลูกน้อยทำให้เธอตัดสินใจว่าน่า จะฝึกปรือให้พวกเขารู้จักค่าของเงินมากขึ้น

"ลูกดื่มนมสดไปนิดเดียวก็เหวี่ยงทิ้งบอกว่าไม่อร่อยจึงอยากสอนเขาว่ากว่าจะ หามาได้แต่ละบาทนั้นยากเย็นแค่ไหนเลยใช้หน้าบ้านเป็นหน้าร้านขายซาลาเปาหวัง ให้ลูกรู้ว่าต้องขายซาลาเปากี่ลูก จึงจะได้ของเล่นสักชิ้น" คุณปรุงพรย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มของกิจการ

แม้จะไม่ตั้งใจทำเป็นธุรกิจจริงจังอะไร แต่ด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันในการผลิตผนวกเข้ากันกับทำเลที่ตั้งร้านซึ่ง อยู่ในย่านผู้คนพลุกพล่านคือติดกับประตูทางเข้าออกของโรงเรียนสาธิต มศว ประสานมิตร ฝ่ายประถมศึกษา ส่งผลให้กิจการ"ซาลาเปาบ้านคุณกบ" เจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ จากทำขายวันแรกเพียง 35 ลูกปัจจุบันขยับยอดการผลิตเป็นวันละ 600-700 ลูก ยิ่งช่วงต้นเดือนหรือเทศกาลตรุษจีน-สารทจีนเธอว่าต้องเพิ่มกำลังการผลิตเป็น สองเท่าเลยทีเดียว

ครั้นความ"อร่อย สะอาด อัธยาศัยดี" กลายเป็นที่ร่ำลือผ่านปากต่อปากส่งผลให้มีผู้คนมากหน้าหลายตา มาถามหาสูตร ก่อนขอให้เธอเป็นคนถ่ายทอดหากแต่คุณปรุงพรปวารณาตัวไว้ตั้งแต่เปิดร้านวัน แรกแล้วว่าขอเป็นเพียงคนขายจะไม่ขอเป็นผู้สอนโดยเด็ดขาด โดยเธอให้เหตุผลว่า

"ไม่ได้เป็นคนหวงวิชา แต่กิจการของเราเติบโตมาจากศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน ฉะนั้นถ้าใครอยากรับวิชา ควรไปเรียนมาจากศูนย์อาชีพฯ เหมือนกันและเชื่อมั่นได้ว่าอาจารย์ผู้สอนจะถ่ายทอดวิชาได้ร้อยเปอร์เซ็นต์"

.....

ย้อนกลับไปที่ "แรงบันดาลใจ" ในการเกิดขึ้นของร้าน "ซาลาเปาบ้านคุณกบ" คือความชอบรับประทานซาลาเปาของผู้เป็นสามีนั่นเอง

สำหรับสามีของคุณปรุงพร เจ้าของเรื่องราวในเบื้องต้นนั้นหลายท่านอาจรู้จักมาบ้างผ่านทางสื่อมวลชน หลายแขนงด้วยเพราะเขาเคยรับตำแหน่งผู้บริหารในองค์กรระดับประเทศมาแล้ว อาทิกรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยแต่ด้วยปัจจัยหลายประการมา ประกอบกัน ปัจจุบัน คุณโชติศักดิ์ อาสภวิริยะหรือ คุณกบ สามีของคุณปรุงพร จำเป็นต้องตกอยู่ในสถานะ "ว่างงาน"มานานกว่าปีเศษแล้ว

"ที่ตั้งใจมาวันนี้เพราะอยากจะมาบอกกับทุกคนว่าชีวิตผมตกงานมา 18 เดือนแล้ว จากเคยได้เงินเดือน เดือนละ 3 ล้านบาทแต่กลับไม่มีเงินเดือนมาปีครึ่งแล้ว ผมยังไม่เดือดร้อนเลยเพราะศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชน แท้ๆ" คุณโชติศักดิ์กล่าวตอนหนึ่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นระหว่างรับเชิญเป็นวิทยากร บรรยายบนเวทีเสวนา ในงาน วันเส้นทางเศรษฐีครั้งที่ 5 เมื่อไม่นานมานี้

คุณโชติศักดิ์ย้อนเรื่องราวให้ฟังถึงที่มาของอาชีพสุจริตเลี้ยงตัวและครอบ ครัวได้เป็นอย่างดีทุกวันนี้ว่าด้วยความชอบรับประทานอาหารจีนประเภทติ่มซำ จึงมักช่วยกันหัดทำกับลูกและภรรยาแต่ปรากฏว่ารสชาติของซาลาเปาออกมาไม่ใช่ อย่างที่ต้องการจึงตัดสินใจส่งภรรยาไปร่ำเรียนกับทางศูนย์อาชีพและธุรกิจ มติชนเพราะตัวเขานั้น ติดตามอ่านนิตยสารเส้นทางเศรษฐี มาอย่างต่อเนื่องจึงทราบดีว่าศูนย์อาชีพฯ แห่งนี้มีอาชีพให้เลือกฝึกฝนนับร้อย

เมื่อได้วิชา "ซาลาเปา" มาบันทึกไว้ในสมองสองสามี-ภรรยาจึงทดลองทำเพื่อทดสอบฝีมือครั้งแรกเป็นจำนวน 100 ลูกหลังจากรับประทานเองและแจกจ่ายให้กับญาติมิตรเพื่อนฝูงยังเหลือซาลาเปา อยู่กว่า 30 ลูกเลยมอบหมายให้ลูกชายทดลองนำไปขายให้กับเพื่อนที่โรงเรียนสาธิต มศวประสานมิตร ปรากฏว่าขายหมดเกลี้ยงพร้อมกับมีคำชื่นชมว่า "อร่อยดี" ฝากมาคุณกบจึงคิดว่ากิจการของครอบครัวเขานั้น เดินมาถูกทางแล้ว

การเริ่มต้นเป็นคนขาย "ซาลาเปา" แม้ดูท่าจะไปได้สวยแต่ทุกอาชีพล้วนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอุปสรรคขวากหนาม ย่อมมีเข้ามาทดสอบเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในข้อนี้คุณโชติศักดิ์เข้าใจดี ก่อนจะมีประสบการณ์ตรงมาถ่ายทอดให้ฟังว่า

"ทุกคนที่เป็นผู้ประกอบการ อย่าตกใจเวลามีปัญหาหากตั้งใจจริงแล้วคุณจะแก้ปัญหาได้ หรือถ้าตั้งใจจริงแล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยคุณได้ ตอนผมทำซาลาเปาออกขายได้เดือนหนึ่งเกิดปัญหาซาลาเปาไม่ฟูเหมือนปกติ พอเปิดฝาลังถึงออกดู มันค่อยๆ ยุบลงช่วยกันคิดเท่าไหร่ยังคิดไม่ออกเพราะสูตรหรือขั้นตอนการทำเหมือนเดิม ทุกอย่าง แก้ไขเท่าไหร่ก็ไม่หายเสียซาลาเปาไปหลายร้อยลูก"

"ตอนนั้นคิดว่าแย่แล้วเลยจุดธูปไหว้พระไปปักไว้ที่เตาแก๊ส เพราะเคยเห็นแม่ค้าเขาทำกันพอก้มลงดูไปเห็นว่าไฟมันดับวงในอยู่ 2 วง ไฟจึงอ่อนไป เลยเอาหัวแก๊สมาล้างก่อนใช้ไขควงทะลวง เคาะๆ แล้วเปิดใช้ พอแก๊สออกมาเต็มทุกวงซาลาเปาฟูเหมือนเดิม นี่แหละที่เขาเรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงอย่าไปดูถูกอุปกรณ์ทำมาหากิน" คุณโชติศักดิ์ เล่าอย่างออกรสก่อนเรียกเสียงฮาครืน

เจ้าของกิจการ "ซาลาเปาบ้านคุณกบ"กล่าวถึงแนวคิดการทำธุรกิจในแบบของเขาว่าการจะเริ่มต้นทำ อาชีพอิสระอะไรก็ตามขอให้ผู้ที่กำลังคิดจะลงมือทำลองถามตัวเองให้ดีก่อนว่า ตัวเรานั้นชอบทำอะไร เพราะถ้าเป็นสิ่งที่ชอบแล้วจะทำได้ดีมีความใส่ใจกับมันในทุกขั้นตอน ทำเท่าไหร่ไม่มีเบื่อและอย่าคิดแต่จะคอยพึ่งแรงงานและความสามาถของลูกน้อง แต่เพียงฝ่ายเดียวตัวเจ้าของกิจการเองต้องทำเป็นในทุกขั้นตอนด้วยมิเช่นนั้น แล้วอาจต้องปวดสมองกับการเข้าๆ ออกๆ ของแรงงานที่เป็นลูกมือ

ก่อนจบการบรรยาย คุณโชติศักดิ์ได้ฝากไว้ให้ขบคิดกันเป็นการบ้านด้วยว่า

"สูตรสำเร็จความรวย มีอยู่ 2 ประการเท่านั้น คือขยันและอดทนและในยามที่บ้านเมืองเป็นอย่างนี้คนที่คิดจะทำงานกินเงิน เดือนแต่อย่างเดียวนั้นเหมือนกับฝากชีวิตทั้งหมดไว้กับคนอื่น ดังนั้นถ้ามีความสามารถด้านอื่นลองมาเป็นผู้ประกอบการกันดีกว่าและหากใครยัง คิดไม่ออกว่าจะทำอาชีพอะไร ลองอ่านนิตยสารเส้นทางเศรษฐีเพราะตัวผมเองประสบความสำเร็จในอาชีพขายซาลาเปา เพราะนิตยสารเล่มนี้"

"ซาลาเปาบ้านคุณกบ" ต้นฉบับของแท้ มีอยู่ 2 สาขาในกรุงเทพฯ เท่านั้นราคาขายปลีกในปัจจุบันอยู่ที่ลูกละ 9 บาท สั่ง 200 ลูกขึ้นไปส่งให้ฟรีในละแวก มี 4 ชนิดให้เลือก หมูแดง หมูสับ ครีมนมสดและสังขยาใบเตย ล่าสุดมีขนมจีบมาเสริมด้วยสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. (02) 664-2624-5, (081) 697-3595

วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ปี 2553 จุดจบประเทศไทย

ข้อมูลที่นำมาเสนอเพื่อน ๆ วันนี้ เป็นข้อความที่ได้รับจาก forword mail ค่ะ
เค้านำเสนอไว้น่าคิดทีเดียว เพื่อนลองอ่านดูนะคะ

นิติภูมิ นวรัตน์ ทำนายเอาไว้ จุดจบประเทศไทย‏

ปี 2553 จุดจบประเทศไทย
ถ้ายังเป็นคนไทยอยู่ช่วยอ่านด้วย เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้
ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด มีดับ ตลอดเวลา .....ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน

สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค
ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง
เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14ประเทศ
ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็น
แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง! ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์
และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ อาเจะ และอีกหลายประเทศที่จะเกิดตามมา

ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ
คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน !
ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553
ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์
สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล

ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน
และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออก เนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ
ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง
เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย
จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน
คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน
เป็นวงจรอย่างนี้ ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้
เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน
เนื่องจาก สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า
เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๊ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs
และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้
วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้
เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว
ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว
เขาสามารถตั้งราคา ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร
ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์
คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้

ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้
การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ
ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำ
นวนมากแล้ว
เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่ามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้
เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus,
Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ

ดังนั้น เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด...
เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้ ...รัฐจะอยู่ได้ฤา ?

4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย
เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553
คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย
การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น
จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย
ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน

จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา จะขอแยกตัวตามมา
เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว
เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ
เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก
นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก Russia
ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่

เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ?

ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น
ไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ
ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์
บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองการค้า การเมือง สังคมไปพร้อมกัน
รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามอง อาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ
ก่อนล่มจริง... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ
ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า
เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาท
เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน

นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ 3 ห้างดัง
ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น
เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 ปอร์เซ็นต์
สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อที่นี่
เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ
ถ้าซื้อจากห้าง 1,000บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900บาท ที่เหลือ 100 บาท

ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว
ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง ทั่วประเทศ
คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ100 เปอร์เซ็นต์
เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร
ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง
เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด

ผมอธิบาย วิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน และลูกฟัง
หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ
ได้ผล... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน... วิธีคิดไปเลย ... เปลี่ยนไปได้มาก
พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง
ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ
แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย
ผมก็อธิบายคำว่า license ( ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟัง
ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธ
ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย ไม่มีลิขสิทธิ
มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน
ขนมต่างชาติ ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ
เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี
ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว

ปล. ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Justin Bieber, Gold Price in India