วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

“รวยด้วยแฟรนไชส์JPWศูนย์ขายรถจักรยาน,รถมอเตอร์ไซค์มือ2” ลงทุน1.5แสน!!!

ถ้าเอ่ยถึงชื่อนักธุรกิจหนุ่มมากความสามารถ นาทีนี้คงไม่พ้น จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ นักธุรกิจหนุ่ม "เจ้าของฉายาพ่อมดน้อยการเงิน"ตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารของ บมจ.เจพี มอเตอร์เวิร์ค และเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจ ในเครือJP Groupซึ่งมีธุรกิจมากมาย อาทิ ธุรกิจไอที , ธุรกิจการเงิน , ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก , ธูรกิจอสังหา ฯลฯ วันนี้เราจะมาแนะนำ"แฟรนไชส์จำหน่ายรถคุณภาพมือ2" หนึ่งเดียวในเมืองไทย ในแบรนด์JPW ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจภายใต้การบริหารของ บริษัท เจพี มอเตอร์เวิร์ค จำกัด (มหาชน)
ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อาทิ

- รถจักรยานยนต์มือ 2 เกรด A
- รถจักรยานมือ 2นำเข้า เกรด A
- รถสามล้อเอนกประสงค์ใหม่


เริ่มต้นจากธุรกิจแฟรนไชส์ รถจักรยานยนต์มือ 2 รายแรกของเมืองไทยที่สร้างปรากฏการณ์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้ก้าวสู่บริษัท ระดับ (มหาชน) ของเมืองไทย ความที่ JPW เป็นผู้บุกเบิกมาตรฐานใหม่ รถใช้แล้ว และไม่เคยหยุดคิด วันนี้จึงมีผลิตภัณฑ์เพิ่ม เช่น รถจักรยาน มือ 2และรถสามล้อเอนกประสงค์ใหม่ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย

หากคุณต้องการเป็นเจ้าของกิจการ ด้วยเงินลงทุนที่ไม่มาก และสร้างธุรกิจง่ายๆได้ที่บ้านคุณ เพียงคุณใส่ใจ มุ่งมั่นในการประกอบอาชีพ JPW ยินดีต้อนรับ และพร้อมจะสร้างผลกำไรให้คุณในอนาคตได้อย่างแน่นอน


แนวทางการตลาด ณ ปัจจุบัน เป็นที่รู้กันว่ารถจักรยานยนต์มือ 2 ของ JPW ยังคงเป็นที่นิยมใช้งานทั่วไปทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด เพรา JPW เรามีรถคุณภาพที่ดีและราคาถูกกว่ามือ 1 มีสินเชื่องรองรับ เฉพาะสมาชิก JPW เท่านั้น โดย ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ และ Sweet leasing ที่กรรมการผู้จัดการ นายภัทรายุทธ์ สังขศิริ ชื่นชมในคุณภาพรถมือ2ของJPWประกาศกร้าว "จัดไฟแนนซ์รถมอเตอร์ไซค์มือ2ให้เฉพาะรถแบรนด์JPWเท่านั้น" สำหรับรถจักรยานมือ2นำเข้า ได้ทางธนาคารกสิกรไทยเข้ามาให้ความร่วมมือในการผ่อนดอกเบี้ย0%กับJPWอีกด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์น้องใหม่ รถจักรยานมือ 2 ก็เป็นสินค้าที่จำหน่ายง่าย ขายคล่อง ที่มักจะมีติดไว้ทุกบ้านและเรามีให้เลือกทุกประเภทการใช้งาน ทั้งจักรยานสำหรับแม่บ้าน จักรยานสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ตามแนวคิดลดมลภาวะ ลดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องง้อน้ำมัน ลดการใช้พลังงาน และยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย

เปิดตัวรถเอนกประสงค์ ซึ่งเรามีหลายรูปแบบ ตามความต้องการใช้งานในทุกๆประเภท ทั้งบรรทุกของ บรรทุกคน บรรทุกเพื่อยกดั้ม ฯลฯ คือ รถมอเตอร์ไซค์ สามล้อเอนกประสงค์ คุณภาพทนทาน ของเราได้เปรียบเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมที่สามารถใช้อะไหล่ ร่วมกับรถมอเตอร์ไซค์ตามท้องตลาดทั่วไปได้ ที่สำคัญเรามีบริการรับสั่งทำ ประกอบ รถเอนกประสงค์ตามรูปแบบที่ท่านต้องการอีกด้วย
ดังนั้น นักลงทุนที่สนใจอยากเป็นเจ้าของธุรกิจที่มั่นคง โดยมีบริษัทแม่เป็นองค์กรระดับ (มหาชน) การลงทุนวันนี้ จึงเป็นการตัดสินใจว่า เราจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน
ใครๆก็เป็นเถ้าแก่ได้เริ่มต้นเพียง 150,000 บาท เท่านั้น!!

สนใจติดต่อ 088-399-7777 , 091-7392426 , 02-496-0335 ต่อ 201, 202, 203, 204 ,084-333-3533(Hotline)

ที่มา: sanook.com

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ขายผักขำๆ กำไรเดือนละ 2 แสน

หากถามถึงอาชีพในฝันของ “คนรุ่นใหม่” ในศตวรรษที่ 21...หนุ่มสาวหลายคนคงนึกไปถึงภาพตัวเองใส่สูทผูกไท แต่งตัวสวยไฮไซ ทำงานสะดวกสบายในออฟฟิศติดแอร์เย็นฉ่ำ แต่ทว่าในมุมกลับ กลับเห็นภาพคนหนุ่มสาวทิ้งสังคมเมืองหันไปใช้วิถีชีวิต “เกษตรกร” ทำไมหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งจึงเลือกมอง “ต่าง”

มีเรื่องราวน่าสนใจจากวงสนทนาของเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่มองเห็นคุณค่าและความหมายลึกๆ ซ่อนอยู่ในอาชีพเกษตรกรรม ที่พวกเขาแวะเวียนมาเจอกันในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “เครือข่ายเกษตรกรกล้าใหม่” ที่ จังหวัดมหาสารคาม เมื่อเร็วๆ นี้

ขายผักขำ ๆ กำไรเดือนละ 2 แสน

“ผมมีรายได้จากการขายผักสลัดให้กับร้านสเต๊ก หักค่าใช้จ่ายแล้ว กำไรเดือนละ 2 แสนบาท ในจำนวนนี้ไม่รวมเงินเดือนที่ผมจะกันไว้เป็นค่าตอบแทนให้ตัวเอง เดือนละ 2 หมื่นบาท” โจ้-จิรายุทธ ภูวพูนผล อายุ 25 ปี เจ้าของสวนผักและร้านสเต๊ก “โอ้กะจู๋” อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวและยิ้มอย่างมีความสุข

ด้วยต้นทุนเดิมที่สนใจการปลูกผัก และต้นทุนใหม่คือความรู้ที่เรียนจบมาโดยตรงในด้านการเกษตรที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้ โจ้ รู้จุดอ่อนของเกษตรกรรุ่นเก่า คือการหาช่องทางการตลาดและจัดจำหน่าย คุณโจ้และเพื่อนจึงร่วมหุ้นกันเปลี่ยนลานจอดรถ ขนาด 2 ไร่ ให้เป็นสวนผัก และเปิดร้านอาหารติดกัน โดยใช้ผักที่ปลูกเองเป็นวัตถุดิบ

เมื่อผนวกสายตาของคนรุ่นใหม่เข้ากับเรื่องการตลาด คุณโจ้ยังใช้สื่อใหม่อย่างโซเชี่ยลมีเดียFacebook.com เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักสวนผักและร้านสเต๊กโอ้กะจู๋มากยิ่งขึ้น ภาพผักสลัดสดใหม่และภาพอาหารหน้าตาน่ารับประทานที่โพสต์ขึ้นสังคมออนไลน์อยู่ไม่ขาด ก็ส่งผลให้มีแฟนเพจแวะเวียนมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การตกแต่งหน้าร้านให้มีจุดถ่ายภาพและชมวิวแปลงผักระหว่างรับประทาน ก็ยิ่งทำให้ร้านมีเอกลักษณ์โดดเด่น การันตี “ปลูกได้และขายเป็น”

อีกหนึ่งตัวอย่าง เกษตรกรรุ่นใหม่เป็นหนุ่มน้อยจาก อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร เก้า-ธีรพงษ์ สุขสวรรค์ บัณฑิตหนุ่มวัยเบญจเพส จบจากสาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

เก้า เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่มีพ่อและแม่เป็นชาวนา ซึ่งทั้งคู่ก็คาดหวังให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทำงาน “นั่งโต๊ะ” มากกว่าจะลงนาทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ

"แต่แล้วชีวิตก็เกิดจุดเปลี่ยน ผมเกือบถูกงูพิษกัดตาย ผมเลยได้คิดว่า ชีวิตคนเรามันสั้นเท่านี้เองนะ ถ้าเราอยากจะทำอะไรก็ให้ทำซะเลย สิ่งที่คิดได้ในเวลานั้นคือ การเกษตร ซึ่งวนเวียนอยู่ในหัวผมมาตั้งแต่เด็ก เพราะเราอยู่กับเขามาตลอด ผมรู้ว่าถ้าผมอยู่กับสิ่งนี้แล้วผมจะมีความสุข”

ปัจจุบัน คุณเก้าได้พิสูจน์ตัวเองจนพ่อแม่ยอมรับและไว้วางใจให้ดูแลแปลงปลูกข้าวของครอบครัวอย่างครบวงจร รวมพื้นที่ราว 100 ไร่ และปรับเปลี่ยนวิถีการปลูกจากใช้สารเคมีมาเป็นการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ส่วนหนึ่งเพื่อปกป้องสุขภาพของคนในครอบครัว

ขณะที่การปลูกพืชวิธีนี้ยังช่วยลดต้นทุน และผลผลิตที่ได้เป็นที่ต้องการของตลาด คุณเก้าบอกด้วยว่า เขากำลังมีแผนสร้างเตาอบข้าวเปลือก ขนาด 30 ตัน ไว้รองรับผลผลิตในฤดูเก็บเกี่ยว โดยนำความรู้ที่เรียนมาในสาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์มาปรับใช้

ที่มา: sanook.com

 
Design by Free WordPress Themes | Bloggerized by Lasantha - Premium Blogger Themes | Justin Bieber, Gold Price in India